เงื่อนไขการให้บริการผูกบัญชีสินเชื่อเข้ากับบัญชี TrueMoney Wallet
เงื่อนไขการให้บริการผูกบัญชีสินเชื่อเข้ากับบัญชี TrueMoney Wallet (“เงื่อนไขการให้บริการ”) นี้ เป็นข้อตกลงระหว่างบริษัท ทรู มันนี่ จำกัด (“บริษัท”) ฝ่ายหนึ่ง และท่านในฐานะผู้ใช้บริการ (“ผู้ใช้บริการ”) อีกฝ่ายหนึ่ง ในการให้บริการผูกบัญชีสินเชื่อ เข้ากับบัญชี TrueMoney Wallet ของผู้ใช้บริการ (“บริการ”) เพื่ออำนวยความสะดวกในการทําธุรกรรมการเงิน โดยการใช้เงินจากวงเงินในบัญชีสินเชื่อดังกล่าวผ่านบัญชี TrueMoney Wallet (“บัญชี”) โดยการใช้บริการของผู้ใช้บริการ จะถือว่าผู้ใช้บริการได้อ่าน เข้าใจ และยอมรับซึ่งเงื่อนไขการให้บริการนี้แล้ว

  1. ผู้ใช้บริการต้องมีบัญชี
  2. ผู้ใช้บริการทำการผูกบัญชีสินเชื่อเข้ากับบัญชีของผู้ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet หรือผ่านช่องทางอื่นใดตามที่บริษัทกำหนด โดยข้อมูลบัญชีของผู้ใช้บริการ และข้อมูลเจ้าของบัญชีสินเชื่อจะต้องตรงกันเท่านั้น
    ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการให้บริการเฉพาะบัญชีสินเชื่อบางประเภทตามที่บริษัทกำหนดเท่านั้น
    อนึ่ง ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่า เมื่อผู้ใช้บริการทำการผูกบัญชีสินเชื่อเข้ากับบัญชีเรียบร้อยแล้ว บริษัทอาจเข้าถึงข้อมูลบัญชีสินเชื่อของผู้ใช้บริการเพื่อทำการแสดงข้อมูลบัญชีสินเชื่อดังกล่าวบนหน้าแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet บนอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ หรือบนช่องทางอื่นใดตามที่บริษัทกำหนด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการในการใช้บริการตามเงื่อนไขการให้บริการนี้
  3. สำหรับการใช้บริการนี้ ผู้ใช้บริการไม่มีหน้าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมในการใช้บริการแก่บริษัท
  4. เมื่อผู้ใช้บริการทำการผูกบัญชีสินเชื่อเข้ากับบัญชีเรียบร้อยแล้ว หากผู้ใช้บริการทำรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการผ่านบัญชีด้วยการหักเงินจากวงเงินในบัญชีสินเชื่อดังกล่าว ผู้ใช้บริการตกลงให้บริษัททำการหักเงินจากวงเงินในบัญชีสินเชื่อดังกล่าวที่ผู้ใช้บริการทำการเชื่อมต่อกับบัญชี เพื่อชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการให้แก่ผู้ขายหรือผู้ให้บริการ และทำการเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการสินเชื่อได้ทันที
    ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการด้วยการหักเงินในวงเงินในบัญชีสินเชื่อ เฉพาะประเภทธุรกรรม (ซึ่งไม่รวมถึง การชำระหนี้บัตรเครดิต), สินค้าและ/หรือบริการของผู้ขาย และ/หรือผู้ให้บริการบางรายที่บริษัทกำหนดขึ้นในปัจจุบัน และ/หรือที่จะกำหนดขึ้นในภายหน้า โดยบริษัทมีสิทธิเปลี่ยนแปลงประเภทธุรกรรม, ประเภทของสินค้าและ/หรือบริการของผู้ขาย และ/หรือผู้ให้บริการที่ผู้ใช้บริการสามารถชำระด้วยการหักเงินจากวงเงินในบัญชีสินเชื่อได้ โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า
  5. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการประสงค์ที่จะยกเลิกรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการ ที่ชำระด้วยการหักเงินจากวงเงินในบัญชีสินเชื่อที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้ใช้บริการจะต้องติดต่อผู้ขาย และ/หรือผู้ให้บริการเองโดยตรง เพื่อให้ผู้ขาย และ/หรือผู้ให้บริการดังกล่าวแจ้งมายังบริษัท และเมื่อบริษัทได้รับทราบถึงการยกเลิกรายการดังกล่าวแล้ว บริษัทจะดำเนินการยกเลิกรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการดังกล่าว และดำเนินการแจ้งคำขอคืนเงินของผู้ใช้บริการไปยังธนาคารหรือ สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อ ภายใน 7 (เจ็ด) วันทำการนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากผู้ขาย และ/หรือผู้ให้บริการดังกล่าว โดยธนาคารหรือ สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อ จะดำเนินการปรับวงเงินในบัญชีสินเชื่อที่ผูกกับบัญชีให้แก่ผู้ใช้บริการต่อไป ภายใน 7 (เจ็ด) ถึง 15 (สิบห้า) วันทำการ ทั้งนี้ ระยะเวลาในการดำเนินการคืนเงินของธนาคาร หรือ สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อแต่ละรายอาจไม่เท่ากัน หากผู้ใช้บริการไม่ได้รับการดำเนินการปรับวงเงินในบัญชีสินเชื่อภายในระยะเวลาข้างต้น ผู้ใช้บริการต้องทำการติดต่อไปยังธนาคารหรือ สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อของผู้ใช้บริการเอง
  6. ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่า บริษัทเป็นเพียงผู้ให้บริการในการอํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมด้วยการหักเงินจากวงเงินในบัญชีสินเชื่อที่ผูกกับบัญชีของผู้ใช้บริการตามคําสั่งของผู้ใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้ ไม่ถือว่าบริษัทกระทำการดังกล่าวในฐานะธนาคาร หรือสถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อ หรือการให้บริการในการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อให้บริการทางการเงิน
  7. ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่า ในการให้บริการของบริษัท ไม่ถือว่าบริษัท กระทำการเป็นทรัสตี (trustee) ผู้ดูแลรักษาแทน หรือผู้บริหารผลประโยชน์ในเงินของผู้ใช้บริการ หากมีปัญหาเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้เงินจากวงเงินในบัญชีสินเชื่อ ที่ผูกกับบัญชีของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการตกลงติดต่อธนาคาร หรือสถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อ และ/หรือดําเนินการแก้ไขด้วยตนเอง โดยบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
  8. ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่า บริษัทไม่รับผิดชอบในความเสียหาย หรือความสูญหายที่เกิดกับจำนวนเงินที่ถูกใช้ไปจากวงเงินในบัญชีสินเชื่อที่ผูกกับบัญชีของผู้ใช้บริการ อันเนื่องจากการที่โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์อื่นใดของผู้ใช้บริการได้สูญหาย หรือถูกขโมย หรือผู้ใช้บริการถูกหลอกลวง หรือจากเหตุสุดวิสัยอื่นใด โดยผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งขอระงับการใช้บัญชีต่อบริษัท หรือต่อธนาคาร หรือสถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อ โดยทันที
  9. ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่า บริษัทไม่รับผิดชอบในความเสียหาย หรือความสูญหายที่เกิดกับจำนวนเงินที่ถูกใช้ไปจากวงเงินในบัญชีสินเชื่อที่ผูกกับบัญชีของผู้ใช้บริการ อันเนื่องจาก Malware หรือ Computer Virus หรือจากการโจมตีทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใด บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์อื่นใดของผู้ใช้บริการที่ใช้บริการ
  10. หากบริษัทประสงค์จะระงับหรือยกเลิกการให้บริการตามเงื่อนไขการให้บริการนี้ (ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน) บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่บริษัทได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบดังกล่าว ให้ถือว่าเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ เป็นอันสิ้นผลลงทันที แต่ทั้งนี้ การยกเลิกหรือระงับการให้บริการดังกล่าว ย่อมไม่กระทบถึงหนี้ใดๆ ที่ผู้ใช้บริการยังคงค้างชำระอยู่กับบริษัท รวมทั้ง ไม่เป็นการลบล้างสิทธิหรือความรับผิดใด ๆ ที่บริษัทและผู้ใช้บริการมีอยู่ หรือได้เกิดขึ้นก่อนวันที่มีผลของการสิ้นสุดลงของเงื่อนไขการให้บริการนี้
  11. ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่าบริษัทอาจดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่ได้ให้ไว้แก่บริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการตามเงื่อนไขการให้บริการนี้ ให้แก่นิติบุคคคลอื่นซึ่งมีหน้าที่ให้บริการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท โดยบริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการเหล่านั้นจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบและศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ที่ https://www.truemoney.com/privacy-notice/
  12. ผู้ใช้บริการตกลงที่จะปฏิบัติและผูกพันตามเงื่อนไขการให้บริการ ซึ่งการใช้บริการของผู้ใช้บริการถือเป็นการยอมรับเงื่อนไขการให้บริการนี้ โดยบริษัทอาจแก้ไข หรือเพิ่มเติมเงื่อนไขการให้บริการได้ ไม่ว่าในเวลาใด โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ และการที่ผู้ใช้บริการใช้บริการต่อไปภายหลังจากที่มีการแก้ไข หรือเพิ่มเติมดังกล่าว ย่อมถือเป็นการยอมรับการแก้ไข หรือเพิ่มเติมในแต่ละครั้ง
  13. ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่าเงื่อนไขการให้บริการนี้เป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขการให้บริการ TrueMoney Wallet ของบริษัท และผู้ใช้บริการตกลงที่ผูกพันและปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการนี้ และเงื่อนไขการให้บริการ TrueMoney Wallet ของบริษัททุกประการ
  14. ถ้าข้อกำหนด หรือเงื่อนไขใดๆ ของเงื่อนไขการให้บริการนี้เป็นโมฆะ หรือไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายใดๆ ให้ถือว่าข้อกำหนด หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ของเงื่อนไขการให้บริการที่สมบูรณ์แยกจากส่วนที่เป็นโมฆะ หรือไม่สมบูรณ์ และมีผลใช้บังคับได้ต่อไป
  15. ในกรณีที่บริษัทไม่บังคับใช้ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขใดของเงื่อนไขการให้บริการนี้ จะไม่กระทบถึงสิทธิของบริษัทในการบังคับใช้ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขนั้นในภายหลัง และการสละสิทธิในการกระทำผิดข้อกำหนด หรือเงื่อนไขใดของผู้ใช้บริการ จะไม่ถือเป็นการสละสิทธิในการกระทำผิดข้อกำหนด หรือเงื่อนไขดังกล่าวครั้งต่อไป หรือการสละสิทธิในข้อกำหนด หรือเงื่อนไขอื่นใด