กองทุนหุ้นเวียดนาม PRINCIPAL VNEQ – 2021
ณ เวลานี้ต้องบอกว่าไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งการเติบโตแห่งตลาดเวียดนาม หรือที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นมังกรตัวใหม่แห่งเอเชียได้เลย
ซึ่งความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่จับตามองในภูมิภาคเอเชีย แต่ยังเป็นที่หมายตาจากทุกมุมโลก ก้าวสู่การเป็นเป้าหมายในการลงทุนที่มีคุณภาพและผลักดันการเติบโตต่อเนื่องของเวียดนามในอนาคต
พรินซิเพิลจึงอยากจะพาทุกท่านได้ทำความรู้จักและเปิดประตูรับโอกาสการลงทุนครั้งสำคัญ กับกองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ Principal Vietnam Equity Fund (PRINCIPAL VNEQ) กองทุนเวียดนามที่มีผลตอบแทนที่ดี โดยสามารถสร้างผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี2021 (พฤษภาคม 2564) ได้ 41.78% (Benchmark : 45.51%) ในเบื้องหลังมีปัจจัยสำคัญใดมาสนับสนุนบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในโพสต์นี้
รู้จักกับ PRINCIPAL VNEQ
โดย ณ ปัจจุบันเน้นการลงทุนหุ้นซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตระยะยาวตามเศรษฐกิจเวียดนาม ตัวอย่างเช่น กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน ซึ่งเป็นพื้นฐานสนับสนุนเงินทุน/ การลงทุน รวมถึงอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศ และการขยายตัวของสังคมเมือง ซึ่งกองทุนนี้มีจุดเด่น 4 ด้านด้วยกัน คือ
- ลงทุนในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงโดดเด่นในภูมิภาค
- กลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบ Actively Management ใช้กลยุทธ์ Core-Satellite Port เน้นผลตอบแทนระยะยาวและมีการสับเปลี่ยนหุ้นบางกลุ่มมาลงทุนระยะสั้นตามสภาวะตลาด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงตลาดลงทุน
- ใช้ VN30 เป็น benchmark ที่มีมาตรฐานผลตอบแทนที่สูง
- มีทีมบริหารกองทุนและนักวิเคราะห์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดเวียดนาม
เหตุผลที่ทำให้เวียดนามกลายเป็นตลาดที่น่าจับตามองก็ได้แก่ 4 เหตุผลด้วยกัน
1.คาดการณ์ GDP เติบโตทั้งปี 7.6%
การบริโภคภายในประเทศเติบโตจากการบริโภคของประชากรวัยแรงงาน ซึ่งเป็นช่วงอายุที่มีการเพิ่มของรายได้และการใช้จ่ายสูง อีกทั้งประชาชนยังมีความมั่นคงทางการเงิน
ในภาคการผลิตเน้นที่สินค้าอุตสาหกรรม การบริการ ค้าปลีกและการก่อสร้าง และจะมีการเติบโตจากการบริโภคและส่งออกมากขึ้นอีก ซึ่งมีปัจจัยเสริมคือค่าแรงที่ถูก เป็นฐานการผลิตสินค้าสำคัญทั้งเอเชียและต่างชาติ เนื่องจากสิทธิพิเศษทางภาษีในการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงโอกาสการขยายความเจริญจากเมืองสู่ชนบทโดยรอบได้มาก
2.เป้าหมายเป็นประเทศมีรายได้สูงในปี 2045
เมื่อถึงปี 2045 เวียดนามตั้งเป้าหมายที่จะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีรายได้ระดับสูง กระบวนทัศน์เน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรม และความทันสมัย การพัฒนาวิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมและทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูง ในการขับเคลื่อนสู่การเป็นฐานการผลิตที่ทันสมัยมากขึ้น มากกว่าจะเป็นฐานการผลิตด้วยแรงงานราคาถูก
3.เกิดการลงทุนตรงจากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะ Manufacturing Sector
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคอุตสาหกรรม แปรรูป และเขตนิคมอุตสาหกรรม เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุน และยังได้รับประโยชน์จากภาวะสงครามการค้า ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายฐานการผลิต ประกอบกับเวียดนามได้ทำข้อตกลงทางการค้าจำนวนมาก รวมถึงต้นทุนค่าแรงต่ำตามข้างต้น จึงเกิดกระแสไหลเข้าของการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (Foreign Direct Investment: FDI) โดยเฉพาะ Manufacturing sector ที่เป็นสัดส่วนถึง 57%
4.“หุ้นเวียดนาม” มีการเติบโตของกำไรสูง ในขณะที่มูลค่าหุ้นยังถูก
นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจตลาดหุ้นเวียดนาม เพราะถือเป็นตลาดที่ดีตลาดหนึ่ง มีราคาเหมาะสม จากกราฟจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีมูลค่าถูกตลาดหนึ่งในเอเชีย มี Forward P/E ใน 12 เดือนข้างหน้าที่ 13.9 เท่า ในขณะที่มีการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 19.2% ต่อปี สูงกว่ากลุ่มประเทศ TIP (ไทย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์)
ตัวอย่างของ กองทุนหุ้นเวียดนาม PRINCIPAL VNEQ – 2021 ถือครอง
ตัวอย่างของหุ้นคุณภาพที่กองทุนเข้าไปถือครองในฐานะ “นักลงทุนต่างชาติ Foreign ownership limit (FOL)” เต็มเพดาน ได้แก่
“FPT Corporation (FPT)” ผู้นำในธุรกิจด้าน IT Outsourcing (Software Development, IT Solutions) ในปี 2563 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13% (ที่มา: fpt.com.vn/en, ข้อมูล ณ วันที่ 29 ม.ค. 2564) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
หรือ “Techcombank (TCB)” แบงก์เอกชนรายใหญ่ที่สุดในเวียดนามที่มีบริการที่หลากหลายตลอดจน Digital Banking Platform ที่ดีที่สุด เป็นแบงก์ที่มี ROE สูงประมาณ 18-20%, NPL ต่ำ มีเงินทุนสำรองที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มนี้ ในปีที่ผ่านมาทำกำไรเพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
จะเห็นว่าหุ้นทั้ง 2 บริษัทยังคงสามารถทำกำไรได้ดี มีการเติบโตในท่ามกลาง COVID-19 ในปีที่ผ่านมาทั้งคู่ (ที่มา: techcombank.com. ข้อมูล ณ วันที่ 29 ม.ค. 2564)
รายละเอียดกองทุน กองทุนเปิด PRINCIPAL VNEQ-A
เงินลงทุนขั้นต่ำในการลงทุน PRINCIPAL VNEQ-A: 1,000 บาท
วันและวลาซื้อขายกองทุน: ทุกวันทำการ ก่อนเวลา 15.00น.
ผลการดำเนินงานของ PRINCIPAL VNEQ-A ติดอันดับ 1 กองทุนที่มีผลการดำเนินย้อนหลังดีเยี่ยม ผลตอบแทนย้อนหลัง Year to date 41.78% และ 1 ปี 96.84% ดัชนีชี้วัด VN30TR Index ที่ให้ผลตอบแทน 45.51% และ 58.72% ตามลำดับ (ข้อมูล ณ 31 พฤษภาคม 2564)
คำเตือน
– ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุนใน
https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน
– ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุนรวม) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
– กองทุน PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย
– กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแรกได้ บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
– ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ซื้อกองทุนกับบลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัดปลอดภัยหรือไม่ (กองทุน)
กองทุนรวมโดยบลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด คือ บริการซื้อขายกองทุนรวม ซึ่งลูกค้าสามารถเปิดบัญชีลงทุนได้ง่ายๆ ผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท โดยไม่ต้องใช้เอกสารให้ยุ่งยาก (Paperless) และลูกค้าสามารถซื้อ-ขาย กองทุนได้หลายบลจ. ซึ่งปลอดภัยแน่นอน เพราะเป็นบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน(กองทุน)ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง นอกจากนั้น ชื่อบัญชียังเป็นของลูกค้าเอง (Non Omnibus)
ข้อดีของการซื้อกองทุนผ่านบลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
- สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทุกที ตลอด24 ชั่วโมง และดูพอร์ตการลงทุนได้ตลอดเวลา
- ค่าธรรมเนียม ซื้อ-ขายเท่ากับซื้อตรงกับ บลจ.
- เงินจากการขายกองทุนจะเข้าที่ทรูมันนี่ วอลเล็ท