เรื่องราวน่ารู้
ลงทุนในกองทุนทองคำ ถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าสนใจ ในยามวิกฤตสงครามแบบนี้
ท่ามกลางความกังวลทั่วโลก เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก ก็จะเห็นได้ว่าทองคำยังคงมีมูลค่าที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเอง และเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง (Safe Heaven) มีความผันผวนน้อย ช่วยป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนได้
อีกทั้งการลงทุนทองคำได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น คนหันมาสนใจสะสมทองคำแท่ง เพื่อความมั่งคั่งในระยะยาวมากขึ้น แต่การซื้อทองคำแท่งมาเก็บมีข้อจำกัดอยู่มาก การลงทุนทางอ้อมผ่าน “กองทุนรวมทองคำ” จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมิใช่น้อย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงจำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับการลงทุน และรูปแบบในการลงทุนที่มีให้เลือกหลากหลาย
กองทุนรวมทองคำ หรือ Gold Fund คือ การลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทองคำ การเคลื่อนไหวของมูลค่าหน่วยลงทุนจะเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก เปรียบเสมือนลงทุนในทองคำแท่งทางอ้อมผ่านกองทุนหลักในต่างประเทศ ซึ่งจะนำเงินไปลงทุนในทองคำแท่ง 99.99% หรือ 99.50% อีกทีหนึ่ง มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนรวมจึงไม่ได้ขึ้นลงตามราคาทองคำในประเทศ แต่จะอิงกับราคาทองคำโลก อย่างไรก็ดี การที่กองทุนนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ จึงมีความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนมาเกี่ยวข้องด้วย
ในการเลือกซื้อกองทุนรวมทองคำ หากคุณสนใจเฉพาะผลตอบแทนจากราคาทองคำเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยน ก็อาจเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้เต็มจำนวน (Fully Hedged)
หากคุณมองหาโอกาสทำกำไรเพิ่มเติมจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย ก็ควรเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงไว้เลย (Non-hedged) แต่ต้องระวังไว้ว่าคุณก็มีโอกาสขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนไป
(ที่มา: ธนาคารไทยพาณิชย์)
การลงทุนในกองทุนทองคำ มีทั้งจุดเด่น และจุดด้อย
จุดเด่น
1. ซื้อง่ายขายคล่อง ผ่าน บลจ. ใกล้บ้านทั้งทางโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต ไม่ต้องเสียเวลาไปร้านทอง
2. สามารถลงทุนในหน่วยย่อยได้ ซึ่งอาจจะใช้เงินเพียง 1,000 บาท เมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำแท่งที่ต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเป็น 10,000 บาท
จุดด้อย
1. สภาพคล่องน้อยกว่าทองคำ เพราะขายแล้วต้องรออีก 1 – 2 วันทำการกว่าจะได้รับเงิน
2. มีค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว และไม่มีเวลาติดตามราคาทองคำ
(ที่มา: เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
ดังนั้นในการจัดพอร์ตการลงทุนควรใช้ทองคำเป็นการลงทุนเพื่อการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนมากกว่าการทุ่มเงินลงทุนในทองคำทั้งหมด หากอยากลงทุนในทองคำ แนะนำมีทองคำติดพอร์ตการลงทุนไว้ไม่เกิน 10% ของมูลค่าสินทรัพย์เพื่อการลงทุนของเราทั้งหมด และอย่าลืมพิจารณาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุนทองคำที่น่าสนใจ ที่สามารถซื้อได้ผ่านบลน.แอสเซนด์ เวลธ์
บลจ. | ชื่อกองทุน |
---|---|
บลจ.ไทยพาณิชย์ | SCBGOLD |
บลจ.ทหารไทย | TMBGOLD |
บลจ.ยูโอบี | UOBSG-N |
บลจ.กรุงศรี | KF-GOLD |
บลจ.ฟิลลิป | PGOLD |
บลจ.กรุงศรี | KF-HGOLD |
บลจ.เอเซียพลัส | ASP-GOLD |
บลจ.เกียรตินาคิน ภัทร | KKP GOLD |
คำเตือน
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า(กองทุน) เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลของกองทุนรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน ของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในแหล่งต่าง ๆ ก่อนการตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
หากสนใจซื้อกองทุนดังกล่าว สามารถเปิดบัญชี และซื้อกองทุนได้ทันทีกับบลน.แอสเซนด์ เวลธ์
รายละเอียดเพิ่มเติม >> ซื้อกองทุนกับบลน.แอสเซนด์ เวลธ์
ซื้อกองทุนกับบลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัดปลอดภัยหรือไม่ (กองทุน)
กองทุนรวมโดยบลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด คือ บริการซื้อขายกองทุนรวม ซึ่งลูกค้าสามารถเปิดบัญชีลงทุนได้ง่ายๆ ผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท โดยไม่ต้องใช้เอกสารให้ยุ่งยาก (Paperless) และลูกค้าสามารถซื้อ-ขาย กองทุนได้หลายบลจ. ซึ่งปลอดภัยแน่นอน เพราะเป็นบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน(กองทุน)ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง นอกจากนั้น ชื่อบัญชียังเป็นของลูกค้าเอง (Non Omnibus)
ข้อดีของการซื้อกองทุนผ่านบลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
- สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทุกที ตลอด 24 ชั่วโมง และดูพอร์ตการลงทุนได้ตลอดเวลา
- ค่าธรรมเนียม ซื้อ-ขายเท่ากับซื้อตรงกับ บลจ.
- เงินจากการขายกองทุนจะเข้าที่ทรูมันนี่ วอลเล็ท