เทคนิคใช้เงินและบริหารเครดิตให้ฉลาด อุ่นใจได้ในทุกสถานการณ์
“การเงิน” อาจเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่ายุ่งยาก ซับซ้อน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเลข ไหนจะค่าเงินบาท อัตราดอกเบี้ย หรือแม้แต่อัตราเงินเฟ้อที่ยากจะทำความเข้าใจ แต่ในชีวิตประจำวันเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ไปได้ ดังนั้นทักษะความรอบรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) จึงนับเป็นทักษะชีวิตพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต บางคนอาจมองว่าการใช้เงินนั้นแสนง่าย เพียงแต่ตลอดช่วงชีวิตของคนเรานั้นจำเป็นต้องเรียนรู้ทั้งวิธีการหาเงิน ใช้เงินอย่างฉลาด ไปจนถึงการทำให้เงินงอกเงย
ดังนั้นหากพูดถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ต้องยอมรับว่า “เครดิต” ได้เข้ามาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญและเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้น เพราะเครดิตที่ดีนั้นจะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน สามารถใช้จ่ายได้คล่องตัว อีกทั้งยังมีประโยชน์สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า
การมีเครดิตทางการเงินที่ดี ใช้อย่างมีความรับผิดชอบ จ่ายตรงเวลา และใช้เครดิตในเรื่องที่สร้างคุณค่าจะช่วยสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีให้กับตัวผู้ใช้เอง ซึ่งคำว่าเครดิตดีในที่นี้ หมายถึงประวัติในด้านการเงินที่ดี เพราะข้อมูลการชำระหนี้ต่างๆ จะถูกเก็บโดย บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด และเมื่อไรที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่อย่างการยื่นขอสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ประวัติการชำระหนี้ทั้งหมดจะปรากฏในรายงานข้อมูลเครดิตบูโรเมื่อมีธนาคารขอเรียกดู
ทำอย่างไรถึงจะมีเครดิตที่ดี การมีเครดิตดีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ไม่มีประวัติการผิดนัดชำระเงินใดๆ มีการวางแผนทางการเงินอย่างชาญฉลาด ตลอดจนมีวินัยในการชำระหนี้สินครบเต็มจำนวนอย่างตรงเวลา ไม่ใช้จ่ายเพลินเกินรายได้ เพราะเมื่อถึงกำหนดเวลาชำระเงินจะได้สามารถชำระคืนได้อย่างสบายๆ
ทรูมันนี่ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับคนไทย เมื่อไม่นานมานี้จึงได้เปิดตัวบริการ ‘Pay Next’ เพย์เน็กซ์ เงินติดมือ หรือวงเงินใช้ก่อนจ่ายทีหลัง เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องเงินได้สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสดไปก่อน ไม่จำเป็นต้องคอยเติมเงินเข้าวอลเล็ท และสามารถรวมยอดใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อชำระครั้งเดียวตอนปลายเดือนได้ โดยวงเงิน Pay Next นี้สามารถใช้จ่ายได้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งออนไลน์ จ่ายบิล เติมเน็ต จ่ายซื้อแอป-ซื้อเกม หรือสมัครดูหนังฟังเพลง อีกทั้งยังสามารถใช้จ่ายผ่านจุดรับชำระออฟไลน์ครอบคลุมร้านค้าชั้นนำและร้านค้ารายย่อยมากกว่า 200,000 จุดทั่วประเทศ
โดยบริการภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์ Pay Next บนแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ท ยังมี
‘เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า’ (Pay Next Extra) วงเงินสะดวกใช้ผ่อนสบาย เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าใช้ผ่อนชำระสินค้าและบริการจากร้านค้าพาร์ทเนอร์กว่า 7,000 ร้านค้า โดยให้วงเงินเพื่อใช้ซื้อสินค้าสูงถึง 50,000 บาท ผ่อนได้นานสูงสุด 36 เดือน และยังมี ‘เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า ยู’ (Pay Next Extra U) พิเศษสำหรับกลุ่มนักศึกษาในการผ่อนชำระสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้นานสูงสุด 24 เดือน ตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิตและต้องการความสะดวกในการใช้งาน
ต้องยอมรับว่าแต่ละคนมีความจำเป็นทางการเงินแตกต่างกัน บางครั้งวงเงินใช้ก่อนจ่ายทีหลังอาจเพิ่มโอกาสทางการเงินกับเราได้ในยามคับขัน หรือในช่วงที่ขาดสภาพคล่องได้ ยกตัวอย่าง หากวันหนึ่งคุณเห็นโอกาสทางธุรกิจ แต่ไม่มีเงินสดเพียงพอเพื่อซื้ออุปกรณ์มาต่อยอดพัฒนาสินค้า วงเงินเพื่อซื้อสินค้าอย่าง Pay Next Extra จะเข้ามาช่วยสานต่อโอกาส และหากคุณสามารถชำระวงเงินคืนได้ตามเวลา นับว่าเป็นการนำเงินมาหมุนเพื่อการต่อยอดอย่างฉลาด
หรืออาจเป็นนักศึกษาที่กำลังต้องการอุปกรณ์ไอทีอย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตแต่ด้วยเป็นกลุ่มที่ยังไม่มีรายได้ อันที่จริงแล้วอุปกรณ์ไอทีเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการศึกษาในยุคปัจจุบันอย่างมาก ไม่ว่าจะใช้ค้นคว้าข้อมูล นำเสนอผลงาน หรือจดเลคเชอร์ โดยบางคนสามารถใช้อุปกรณ์เหล่านี้เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างรายได้เสริมในวัยเรียน เช่น การเป็นคอนเทนท์ครีเอเตอร์ ขายของออนไลน์ เป็นต้น
การใช้จ่ายลักษณะ Buy Now, Pay Later (BNPL) นี้กลายเป็นที่นิยม เพราะสมัครง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารแสดงเงินเดือน ทั้งยังอนุมัติไวกว่าการสมัครบัตรเครดิตและไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ช่วยให้ผู้ใช้มีอิสระในการชำระเงิน พร้อมบริการจัดการวางแผนเงินในบัญชีได้ง่าย นับเป็นการสร้างวินัยทางการเงินไปในตัว ทำให้เหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่เคยมีบัตรเครดิต หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่วงการนี้
ปัจจุบันระบบใช้ก่อนจ่ายทีหลังเป็นที่นิยมมากในแถบประเทศนอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี จีน อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ทำให้ตลาด BNPL ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 90.69 พันล้านดอลลาร์ และคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 3.98 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2573 ขณะเดียวกันจากการศึกษาของ Juniper Research ยังได้คาดการณ์ว่าจำนวนของผู้ใช้ BNPL ทั่วโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 900 ล้านคนในปี 2570 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 360 ล้านคน โดยมี Gen Z และ Gen Y เป็น
กลุ่มหลักในการผลักดันบริการนี้ โดยผู้เชี่ยวชาญยังระบุอีกว่า 57% ของผู้บริโภครู้สึกว่า BNPL เข้าถึงง่าย ให้อิสระในการใช้เงิน และมีศักยภาพที่จะมาแทนที่บัตรเครดิตได้ในอนาคต
ในอีกมุมหนึ่ง ผลิตภัณฑ์การเงินประเภทใช้ก่อนจ่ายทีหลังจึงเป็นเครดิตทางการเงินที่ช่วยเสริมสภาพคล่องให้สามารถใช้จ่ายได้สะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสดออกไปก่อน ทำให้สามารถนำเงินสดที่มีอยู่ในกระเป๋าไปหมุนเวียนเพื่อประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมากมาย จึงเห็นได้ว่าการบริหารเครดิตให้ดีเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนด้านการเงินอย่างฉลาด เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่เส้นทางการเงินอันราบรื่น
สำหรับผู้ที่สนใจ ‘Pay Next เงินติดมือ’ วงเงินใช้ก่อน จ่ายทีหลัง สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.truemoney.com/pay-next-pay-later/
Article 3
ใช้เงินและบริหารเครดิตให้ฉลาด
เทคนิคบริหารเงินให้อุ่นใจได้
ในทุกสถานการณ์