เรื่องราวน่ารู้
ในยุคดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ และการปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลืออยู่ที่ 1 ล้าน
การฝากเงินไว้อย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เชื่อว่าหลายๆคนมองหาทางเลือกในการเก็บออม ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินในธนาคาร ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ที่เป็นทางเลือกนึงที่น่าสนใจก่อน กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้เอกชน หรือ ตั๋วเงินคลัง เป็นต้น โดยที่ตราสารหนี้เหล่านี้ต้องมีอายุตราสารเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกิน 1 ปี
กองทุนตราสารหนี้เหมาะกับเป็นแหล่งพักเงินที่ดี ที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสม และไม่ทำให้เงินต้นได้รับความเสียหาย แถมมีผู้จัดการกองทุนรวมซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทำหน้าที่บริหารเงินลงทุนของเราให้เติบโต ไม่ต้องคอยติดตามราคาทรัพย์สินรายวัน อีกทั้ง กองทุนตราสารหนี้ เป็นตัวช่วยในกระจายความเสี่ยงของพอร์ต เพราะมีความเสี่ยงต่ำกว่าสินทรัพย์การลงทุนบางประเภท เช่น หุ้น ทองคำอสังหาริมทรัพย์
ตราสารหนี้ คืออะไร?
ตราสารหนี้ คือ ตราสารการลงทุนประเภทหนึ่งที่จ่ายรายได้แบบคงที่ออกมาให้กับนักลงทุน (Fixed Income) ซึ่งนักลงทุนจะตกอยู่ในสถานะผู้ปล่อยกู้ (Loaner) โดยที่ทางรัฐหรือบริษัทที่เป็นคนออกตราสารจะได้สถานะที่ตรงกันข้ามก็คือ การเป็นผู้ยืม (Borrower) อีกนัยหนึ่งเราอาจจะเรียกผู้ปล่อยกู้ว่า “เจ้าหนี้ (Creditor)” และผู้ยืมว่า “ลูกหนี้ (Debtor)” ได้เช่นเดียวกัน
กองทุนตราสารหนี้ ระยะสั้น กลาง ยาว มีความแตกต่างกันอย่างไร?
- ตราสารหนี้ระยะสั้น = ตราสารหนี้ที่มีอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 ปี
- ตราสารหนี้ระยะกลาง = ตราสารหนี้ที่มีอายุ 2-10 ปี
- ตราสารหนี้ระยะยาว = ตราสารหนี้ที่มีอายุ 10-30 ปี
ผลตอบแทนของกองทุนรวมตราสารหนี้มาจากไหน?
สิ่งที่นักลงทุนจะได้จากการลงทุนไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชน หรือพันธบัตรรัฐบาล คือ ดอกเบี้ยรับตามที่กำหนดไว้ (Coupon) และกำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain) หากขายได้ที่ราคาสูงกว่าราคาซื้อ แต่ถ้าขายได้ต่ำกว่าราคาซื้อก็จะขาดทุน
การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้เหมาะกับใคร?
การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้นั้นเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก และไม่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงหรือหวือหวา ซึ่งกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ไปลงทุนในตราสารหนี้แต่ละประเภทก็จะมีความเสี่ยงแตกต่างกันออกไป เช่น หากไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ก็จะมีความเสี่ยงต่ำมาก และจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหากไปลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชน แต่ก็ยังถือว่าเป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้กองทุนรวมตราสารหนี้ยังเหมาะกับผู้ที่พลาดโอกาสในการซื้อพันธบัตรหรือหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่มักจะมีการแย่งกันจองซื้อในช่วงที่ออกเสนอขาย
บลน.แอสเซนด์ เวล์ขอนำเสนอกองทุนที่มีการขายในแพลตฟอร์มของบริษัท ดังนี้
5 อันดับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น มีผลตอบแทนโดดเด่น
ชื่อกองทุน | บลจ. | ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี (%) |
---|---|---|
ONE-FAR | บลจ.วรรณ | 1.03% |
KKP PLUS | บลจ.เกียรตินาคิน ภัทร | 0.94% |
MMM-PLUS | บลจ.เอ็มเอฟซี | 0.92% |
KFSMART | บลจ.กรุงศรี | 0.90% |
WE-INCOME | บลจ.วี | 0.88% |
*ข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลังจาก Morningstar ณ วันที่ 11 กันยายน 2021
แต่ถ้าสามารถคงเงินจำนวนนี้ในระบบการลงทุนได้นานกว่า 6 เดือน การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาวน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะสามารถลงทุนได้นานขึ้น และสามารถลงทุนกับกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศเพิ่มเติมได้อีกด้วย
5 อันดับกองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง มีผลตอบแทนโดดเด่น
ชื่อกองทุน | บลจ. | ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี (%) |
---|---|---|
KKP ACT FIXED | บลจ.เกียรตินาคิน ภัทร | 2.56% |
KFAFIX-A | บลจ.กรุงศรี | 2.19% |
SCBRF | บลจ.ไทยพาณิชย์ | 2.06% |
SMART-PLUS | บลจ.เอ็มเอฟซี | 1.87% |
PRINCIPAL iFIXED-A | บลจ.พรินซิเพิล | 1.87% |
*ข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลังจาก Morningstar ณ วันที่ 11 กันยายน 2021
สุดท้ายนี้ ถ้านักลงทุนมีเงินก้อนหนึ่งที่ทิ้งไว้ในบัญชีธนาคารเฉยๆ แล้วรู้สึกว่าอยากได้แหล่งพักเงินที่ให้ผลตอบแทนมากกว่านี้ กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น และกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะกลาง ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
คำเตือน
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้ใจ ลักษณะสินค้า(กองทุน) เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงก่อนการลงทุน
- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ซื้อกองทุนกับบลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัดปลอดภัยหรือไม่ (กองทุน)
กองทุนรวมโดยบลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด คือ บริการซื้อขายกองทุนรวม ซึ่งลูกค้าสามารถเปิดบัญชีลงทุนได้ง่ายๆ ผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท โดยไม่ต้องใช้เอกสารให้ยุ่งยาก (Paperless) และลูกค้าสามารถซื้อ-ขาย กองทุนได้หลายบลจ. ซึ่งปลอดภัยแน่นอน เพราะเป็นบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน(กองทุน)ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง นอกจากนั้น ชื่อบัญชียังเป็นของลูกค้าเอง (Non Omnibus)
ข้อดีของการซื้อกองทุนผ่านบลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
- สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทุกที ตลอด24 ชั่วโมง และดูพอร์ตการลงทุนได้ตลอดเวลา
- ค่าธรรมเนียม ซื้อ-ขายเท่ากับซื้อตรงกับ บลจ.
- เงินจากการขายกองทุนจะเข้าที่ทรูมันนี่ วอลเล็ท